“Centara Grand @ Central World” แอบอิง พิงกาย บนเตียง King size ในเซ็นทาราแกรนด์
หากพูดถึงโรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพ หนึ่งใน TOP 10 ที่อยู่ในใจใครหลายคน น่าจะมีรายชื่อของ Centara Grand @ CentralWorld ติดโผอยู่ ด้วยการบริการแสนประทับใจ ผนวกกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทันสมัย จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับบริการที่พิถีพิถันเหล่านี้ วันนี้ส้มจะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศโรงแรมใจกลางกรุงแห่งนี้กันค่ะ
“โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์” (Centara Grand @ Central World) ตั้งอยู่ตึกเดียวกันกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด (CentralWorld) บริเวณสี่แยกราชประสงค์เลยค่ะ ย่านนี้ใครๆ ก็รู้ว่ามีแหล่งช้อปปิ้งมากแค่ไหน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจึงมักมาพักแถวนี้เพราะสะดวกในการเดินทางค่ะ ถึงแม้ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จะเกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันขึ้น (ระเบิดบริเวณศาลพระพรหม) ทำให้บรรยากาศบริเวณนั้นซบเซาลงไปบ้าง แต่ชีวิตเราต้องเดินต่อไป ส้มอยากเห็นกรุงเทพกลับมาคึกคักเหมือนเดิม รีวิวนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นพลังเล็กๆ ในการเชิญชวนให้ทุกคนมาพัก มาเที่ยว มาส่งเสริมเศรษฐกิจไทยอีกครั้งหนึ่ง แม้สิ่งที่เขียนจะไม่ได้มีคุณค่ามากมายอะไรนัก แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่ได้ลงมือทำอะไรบ้าง
ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าทริปนี้มีสปอนเซอร์ใจดีสนับสนุน (คุณแม่สามีเองค่ะ อิอิ) ด้วยความที่ท่านต้องมาประชุมงานบริษัท ทางผู้จัดงานจึงอำนวยความสะดวกแก่ผู้ร่วมประชุมโดยจองห้องพักที่โรงแรมนี้ไว้ให้ แต่คุณแม่อยากกลับบ้านมากกว่า เลยกรี๊งกร๊างโทรถามคุณสามีและเราว่า “อยากมาพักมั้ย??” เราใช้เวลาตัดสินใจอยู่… อยู่… อยู่… 3 วินาที (เหมือนจะนานเนอะ) ก็รีบตกปากรับคำอย่างว่องไวด้วยใจเต้นรัว เพราะดีใจที่จะได้ไปพักผ่อนในโรงแรม 5 ดาวกับเค้าด้วย
การเดินทางมาพักที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์แสนง่ายดาย แม้จะเผชิญรถติดซักหน่อยแต่ก็คุ้มค่ากับการมาเยือนนะคะ คนที่นำรถส่วนตัวมาก็สามารถจอดที่ลานจอดรถของห้างเซ็นทรัลเวิร์ดได้เลย แต่ถ้าคนไหนขี้เกียจขับรถมาเอง จะใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ก็ได้เช่นกันค่ะ (ลงสถานี สยาม หรือ ชิดลมก็ได้ แล้วเดินมาทาง Sky Walk)
วันนี้ส้มได้พักห้องประเภท “เอ็กเซ็กคิวทีฟสวีท” (Executive Suite) ตอนแรกคิดว่าจะได้ห้องซูพีเรียอะไรทำนองนั้น แต่พอเปิดประตูเข้ามาถึงขั้นช็อค โอ้โห!! เกินความคาดหมาย ห้องใหญ่มว๊ากกกกกกก (^O^) ภายในห้องแบ่งเป็นโซนต่างๆ คือห้องนอน , ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำ แต่ละโซนมีพื้นที่ใช้สอยเยอะจนอยากจะเข้าไปเล่นซ่อนหาในนั้น (เวอร์ม่ะ) มันกว้างจนรู้สึกว่าใหญ่ไปสำหรับการมาพักแค่ 2 คน แต่ก็ชอบนะ (555)
พอดีเราไปร่วมงานเลี้ยงตอนเย็นกับคุณแม่สามีด้วย กว่างานจะเลิกได้เข้าห้องนอนก็เกือบ 2 ทุ่มแล้วค่ะ เลยทำได้แค่สำรวจห้องพักกับห้องฟิตเนตนิดหน่อยเอง facility อื่นๆ เลยไม่ได้เข้าไปใช้บริการ (ร้องไห้หนักมาก) เอาเป็นว่ารีวิวนี้ขอเน้นภายในห้องของตัวเองก็แล้วกันเนอะ ถ้าโชคดีได้ไปอีกสัญญาว่าจะรีวิวทุกซอกทุกมุมไปเลยจ้า (^_^)
ห้องนอนของเราค่ำคืนนี้
มาม่ะ เรามาเริ่มซอกแซกกันที่ “ห้องนอน” ก่อนเลยดีกว่า สิ่งที่สะดุดตาหนีไม่พ้นเตียง King size ที่คลุมด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ แค่มองก็รู้แล้วว่ามันต้องนิ่ม นุ่มสบายแน่ๆ คือเห็นเตียงแล้วไม่อยากเดินไปมุมอื่นแล้วอ่ะ น้องอยากกระโดดม้วนหน้าตีลังกาลงบนเตียงเสียนี่กระไร แต่ด้วยความที่ห้องอยู่มุมของตึก การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เลยดูแปลกๆ ไปซักหน่อยนะคะ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องนอน ก็มี Smart TV จอใหญ่ , เก้าอี้นุ่มๆ ไว้นั่งเอนกาย , ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จนสามารถนำเสื้อผ้าของทั้งเดือนมาเก็บไว้ได้ ส่วนโทนการตกแต่งก็สบายตาดีค่ะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ ค่ะ
เตียงดูดวิญญาณ นอนแล้วไม่อยากลุก
ใช้แสงนวลๆ เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น น่านอนมากยิ่งขึ้น
เก้าอี้ก็นั่งสบาย เหมาะมากกับการนั่งดูละครยามดึก
ตู้เสื้อผ้ามี 2 ตู้เลย ใครพักยาวๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่แขวนเสื้อนะคะ
มาถ่ายรูปห้องพักวันนี้ อยากได้เลนส์ wide ซะจริงๆ
ต่อด้วยโซน “ห้องน้ำ” ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาโรงแรมที่เคยไปพัก แถมแบ่งสัดส่วนชัดเจน คือส่วนเปียกและส่วนแห้ง แถมด้วยอ่างอาบน้ำไซส์ยักษ์อีกตังหาก ส้มคิดว่าเค้าคงเผื่อสำหรับชาวต่างชาติที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าคนไทยเราด้วย แต่สำหรับส้มแล้วมันใหญ่เกิ๊น มันฮาตรงที่เวลาเรานอนแช่ตัวแต่เท้าไม่สามารถแตะกับขอบอ่างได้ นอนๆ ไปตัวไหล หัวจะจมน้ำตลอดๆ (555)
กรี๊ดๆ เห็นอ่างน้าใหญ่ขนาดนี้ มีหรือจะพลาดการนอนแช่ตัว
โซนอาบน้ำ แต่งตัว
อันนี้อีกฝั่งค่ะ (ห้องน้ำทั้งสองโซนรวมกันใหญ่เท่าห้องนอนเลยอ่ะ)
เรื่องเครื่องประทินผิวก็มีพร้อมสรรพ ทั้งโลชั่น แชมพู ครีมนวด ขวดใหญ่ แล้วยังมีเป็นสำลี แปรงสีฟัน ไดร์เป่าผม ฯลฯ เรียกว่าแค่เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก็พอ เพราะอย่างอื่นโรงแรมเตรียมไว้ให้เราหมดแล้วค่ะ
ขาดแค่เครื่องสำอางเท่านั้น พร้อมสรรพมั้ยล่ะ
มาถึงโซนสุดท้ายที่จะพาไปสำรวจ “ห้องนั่งเล่น-ทำงาน” นั่นเองค่ะ บริเวณนี้พื้นที่กว้างขวาง ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด ทั้งโซฟาชุดใหญ่ , โต๊ะเก้าอี้ 1 ชุด , แถมด้วยโต๊ะทำงานอีกตังหาก คือบอกเลยว่าสามารถมาประชุมกันในนี้ได้สบายๆ เลยล่ะ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือโทรทัศน์จอใหญ่ให้ดูหนังกันได้แบบสะใจไปเลยจ้า
จะนั่งดูโทรทัศน์หรือสะสางงานก็ทำได้ตามใจ
แก้วเพียบ
จัดเต็ม
Note
มีเมนูเตรียมไว้ให้เผื่อใครอยากโทรสั่งอาหาร
ใครอยากจิบชากาแฟเค้าก็มีให้ หรืออยากดื่มเหล้าเค้าก็เตรียมน้ำแข็งไว้อีก (ใจดีจริง) ส่วนตู้เย็นอัดแน่นไปด้วยขนมและเครื่องดื่ม แต่อย่าเพิ่งดีใจแกะหนมกินนะจ๊ะ เพราะว่ามันต้องจ่ายเงิน (เสียใจอย่างแรง) จริงๆ ส้มคิดว่าน่าจะรวมไปเลยเนอะ เพราะราคาห้องก็ไม่ใช่ถูกๆ นิน่า อย่างตอนส้มไปพักที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ มินิบาร์ทุกอย่างสามารถทานได้โดยไม่ชาร์จเงินเพิ่ม เรียกความประทับใจได้อีกโขเลยค่ะ (แต่พวกเหล้า วอสก้านี่ยังต้องจ่ายนะ)
คราวนี้เราออกนอกห้องตัวเองไปส่องสถานที่อื่นกันบ้าง แถ่น..แทน..แท้นน “ห้องฟิตเนต” ไงจ๊ะ ที่โรงแรมนี้ทำได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ บรรดาอุปกรณ์ต่างๆ มีเยอะและแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน เสียดายวันนั้นไม่ได้เตรียมรองเท้ากีฬาไปด้วย ไม่งั้นจะมารีดไขมันซักขีดสองขีด (เย๊อะ เยอะ) ส่วนสระว่ายน้ำที่ตั้งใจมาแหวกว่ายยามค่ำคืน ก็ดันไม่เป็นใจ ชิงปิดไปตั้งแต่ 2 ทุ่ม (มั้ง) เฮ้อ! บุญมีแต่กรรมบัง สุดท้ายได้แต่ทำใจกลับมาแช่น้ำที่อ่างยักษ์ของเราต่อก็แล้วกัน~~ ก่อนกลับบ้านก็ยังอุตส่าห์แวะไปถ่ายรูปมา 2 แช๊ะ เพื่อคุณผู้อ่านนะ เค้าน่ารักมั้ย (^__^)
โซนฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสปา อยู่ชั้น 26
กว้างขวาง
คนที่ชอบออกกำลังกายคงปลื้มน่าดู
อยากนวดขึ้นมาทันที
ห้องอาบน้ำและแต่งตัว
แว๊บมาถ่ายรูปสระว่ายน้ำก่อนเช็คเอาท์ ตะเตือนใจ อดว่าย
คืนนั้นได้นอนบนเตียงดูดวิญญาณค่ะคุณผู้โชมมมม คืองานดี งานเด่นมากเลย เจ้าเตียงคิงไซส์เนี๊ยะ นอนจนไม่อยากลุกขึ้นมากินข้าวกินปลา แต่ว่าทำไมได้เดี๋ยวไม่คุ้ม (งกขึ้นหน้า) สำหรับอาหารเช้าเราไปทานกันที่ห้องอาหาร The World ชั้น 24 (ห้องเดียวกับที่จัดบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันค่ะ/ส้มเคยไปทานมาแล้วอร่อยมาก ไว้จะมาแชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันนะคะ) ต้องบอกว่าอาหารเช้าที่นี่จัดหนัก มีทุกสิ่งให้เลือกสรร แต่เสียด๊าย เสียดายถ่ายรูปมาได้เศษ 1 ส่วน 10 ของอาหารที่มีอยู่ เพราะไม่อยากรบกวนลูกค้าท่านอื่นๆ ที่กำลังตักอาหารกันอยู่น่ะค่ะ ใครอยากรู้ว่าของเยอะขนาดไหนต้องลองไปพักดูนะคะ (มีมายั่วอีกด้วยนะเรา)
เลือกที่นั่งกันก่อน
อาหารเช้าสำคัญที่สุดนะจ๊ะ เริ่มที่ขนมปัง
หน้าตาดีอ่ะ
ต่อด้วยโซนสลัดและผลไม้
ข้าวต้มก็มีนะ
จัดหนักไปเลยดีกว่า
ถ้ากลัวไม่อิ่มก็ปิดท้ายด้วยก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ซักชาม
สำหรับรีวิวสั้นๆ ขอจบลงเพียงเท่านี้ เพราะถ้ายาวกว่านี้จะกลายเป็นรีวิวยาวๆ (กวนทีนจริงๆ) ถึงแม้ส้มจะใช้เวลาในโรงแรมแห่งนี้ได้ไม่นานนัก แต่ก็ประทับใจในการบริการตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ พนักงานทุกส่วนมีใจบริการ (ยกเว้นพนักงานต้อนรับตอนเช็คเอาท์บางคน ที่สนใจแต่ลูกค้าชาวต่างชาติ จนลืมลูกค้าคนไทยที่ยืนรออยู่นานสองนานแล้ว) ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ กับการได้มาพักผ่อนในโรงแรมที่มีมาตรฐานระดับ 5 ดาวแห่งนี้ ช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีมากอีกครั้งหนึ่งเลยล่ะค่ะ การได้มาพักผ่อน เอนกายลงบนเตียงนุ่มๆ และต้อนรับยามเช้าด้วยอาหารแสนอร่อย Centara Grand @ CentralWorld ทำให้วันธรรมดากลายเป็นวันสุดพิเศษไปเลยค่ะ
ส้มยังมีข้อมูลที่กิน ที่เที่ยว รวมถึงที่พักอีกมากมาย ต่อคิวรอเขียนรีวิวเพื่อนำเสิร์ฟให้เพื่อนๆ ได้อ่านอีกนะคะ ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ~~ คนที่เข้ามาอ่านขอให้แฟนรักแฟนหลง ถูกหวยรวยเบอร์ สวยหล่อเป็นหนุ่มสาวสองพันปี สาธุ (^__^)
เว็บไซต์โรงแรม : http://www.centarahotelsresorts.com/th/centaragrand/cgcw/index.asp
วิธีการเดินทาง : http://www.centarahotelsresorts.com/th/centaragrand/cgcw/map.asp#mcon
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand