กิน ดื่ม ปาร์ตี้ ที่ Shakariki 432 (สาขา Nihonmachi)
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ (Izakaya) หรือร้านกินดื่ม ในกรุงเทพมีจำนวนเยอะมาก ทั้งร้านเล็กๆ ที่มีโต๊ะไม่กี่ตัว ไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ที่จุคนได้หลายสิบคน ส้มคิดว่าที่มีร้านแนวนี้เยอะคงเพราะ lifestyle ของคนไทยและญี่ปุ่นคล้ายกันตรงที่ชอบสังสรรค์ เฮฮา ยิ่งช่วงหลังเลิกจากงานที่แสนเครียด ก็อยากหาสถานที่ผ่อนคลายกันบ้าง ร้านเหล่านี้จึงเป็นจุดหมายหลัก เมื่อนึกถึงการนัดพบปะสังสรรค์ ปาร์ตี้กับเหล่าเพื่อนฝูง ผู้ร่วมงาน วันนี้ส้มเลยขอแนะนำอีกหนึ่งร้านอิซากายะเจ้าประจำ มาแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักกันค่ะ รับรองว่าอาหารอร่อย แถมยังได้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแน่นอน
สำหรับร้านอิซากายะที่ส้มจะพาไปในวันนี้ มีชื่อว่า “Shakariki 432” มีหลายสาขาทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด แต่ส้มไปอยู่ที่เดียวคือ สาขา Nihonmachi Japanese Mall (สุขุมวิท 26) อยู่บริเวณชั้นสองของอาคาร มากี่ครั้งก็เห็นลูกค้าเยอะเสมอ ยิ่งช่วงต้นเดือนหรือวันหยุด ตอนค่ำนี่เรียกว่าเล่นกิจกรรมเก้าอี้ดนตรีกันเลยค่ะ ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากอารมณ์เสียจากการยืนรอนานแนะนำให้โทรมาสำรองโต๊ะไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ
ปล. 1 ภาพในรีวิวนี้เกิดจากการไปกินหลายครั้ง แล้วนำมารวบรวมให้นะคะ
ปล. 2 ภาพจากกล้องมือถือทั้งหมด ชัดบ้าง เบลอบ้าง ข้าน้อยขออภัย / อีกอย่างทำไมย่อรูปแล้วมันยังใหญ่โตโอฬารอยู่ก็ไม่รู้ง่า (T_T”)
บริเวณหน้าร้าน
มีโปร Happy Hour ถ้ามาช่วงเวลานี้แล้วสั่งเครื่องดื่มสั่งแอลกอฮอล์ รับไปเลยแกล้มฟรีคนละ 2 อย่าง
การตกแต่งของ Shakariki 432 ก็ตามสไตล์ร้านอิซากายะ ที่ดูสบายๆ ไม่หรูหรา เน้นให้ความรู้สึก relax แถมมีโปสเตอร์ตลกๆ ชองคุณพี่เจ้าของร้านแปะเต็มร้าน ส่วนลูกค้าที่เข้ามาต่างพูดคุย เฮฮา ยิ่งเสริมให้บรรยากาศในร้านครื้นเครงขึ้นไปอีก
มาดูภายในกันบ้าง เริ่มจากโซนที่นั่งประจำ
มีมุมให้เลือกนั่งหลายโซน
การตกแต่งร้าน
สำหรับอาหารขอบอกว่าไม่เคยเห็นร้านอิซากะยะที่ไหนมีเมนูให้เลือกมากมายขนาดนี้มาก่อน ตอนแรกที่พนักงานยกมาให้ ว่าจะถามกลับเหมือนกันว่าเมนูอาหารรึตำราเรียนคะ หนาได้ใจจริงๆ แค่ส้มนั่งดูรูปเพื่อเตรียมสั่งอาหาร ก็ใช้เวลาพักใหญ่เลยค่ะ ภาพประกอบแต่ละจานก็ชวนให้น้ำลายสอตั้งแต่ยังไม่เห็นอาหารของจริงเลยทีเดียว
ใครชอบอาหารเบาๆ เอาไว้แกล้มเหล้า กินได้เรื่อยๆ ก็มี คุชิคัตสึ , ยากิโทริ , เกี้ยวซ่า , เทมปุระ หรือแม้แต่ทาโกยากิ ที่สามารถทำเองที่โต๊ะได้เลย
พาเหรดเมนูอาหารชุดที่ 1 เริ่ม!!!
คุชิคัตสึ , ยากิโทริ อยากกินแบบไหน ลุยเลย
เมนูทานเล่น กินได้เรื่อยๆ
ทาโกะยากิแบบเอามาทำเองได้ที่โต๊ะ
ถ้าคิดว่าเมนูข้างบนมันน้อยไป ไม่พอต่อความอยากอาหาร ก็มีจานที่หนักท้องขึ้นมาหน่อย เช่น ซูชิ , ซาชิมิ , ข้าวหน้าปลาดิบ รวมถึงนาเบะร้อนๆ ซักหม้อ แต่หากอยากจัดหนักไปเลย ก็ต้องโอโคโนมิยากิ ราเมน กินเสร็จถึงขั้นกลิ้งกลับบ้าน ส้มไปร้านนี้มาหลายครั้งนะคะ แต่ก็ยังไม่เคยกินครบทุกเมนูซักที
เริ่มหนักท้องขึ้นมาอีกหน่อย
ซูชิ ซาชิมิ แค่ดูก็ตาลายแล้ว
นาเบะก็มีนะจ๊ะ
จัดหนักไปเลยแล้วกัน เอาให้อิ่ม
โปรโมชั่นมีอยู่เรื่อยๆ
อาหารไทยยังมีเล้ย เอากับเค้าสิร้านนี้!!!
เรื่องแอลกอฮอล์ก็ไม่น้อยหน้าใคร จัดมา 3-4 หน้ากระดาษ ไม่ว่าจะเป็น โซจู , สาเก , ค็อลเทล , เบียร์ , ไวน์ และที่ส้มสั่งประจำคือ ไฮบอล ขอบอกว่าพี่เค้าไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ เค้ามาเน้นๆ ทั้งเรื่องแอลกอฮอล์และอาหารการกินจริงๆ
ของมึนเมามารัวๆ สายแข็งว่าไงจ๊ะ
เผื่อใครรู้สึกว่าต้องมีของหวานตบท้าย จัดให้ๆ
อุปกรณ์มาพร้อมแล้ว
เริ่มต้นความอร่อย
เริ่มจากเครื่องดื่มไฮบอล (Highball) เป็นสิ่งแรกที่ส้มต้องสั่งทุกครั้ง ชอบมากที่สุดคงเป็นโค๊กไฮบอล แต่ต้องขอให้เค้าลดแอลกอฮอล์ลงเพราะมันเข้มเกินไปสำหรับส้ม จิบไปกินไป เป็นการผ่อนคลายสุดๆ
Highball ดื่มเป็นอยู่อย่างเดียวนี่แหละ ช๊อบชอบ
ถ้าไปช่วง Happy Hour แล้วสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะได้รับกับแกล้มฟรีคนละ 2 อย่าง
ต่อมาคือเมนูที่ส้มสั่งทุกครั้งที่ไป มีอยู่ 3 อย่าง คือ “นาเบะรสเผ็ด” สิ่งนี้ห้ามพลาดนะคะ ปกติส้มมักเห็นแต่นาเบะน้ำใสหรือมิโซะ แต่ที่นี่มีแบบเผ็ดและแกงกะหรี่ด้วย ส้มชอบแบบรสเผ็ด มันไม่ถึงกับเผ็ดมาก แต่กลมกล่อม ซดแล้วคล่องคอ รับรองถูกปากคนไทยชัวร์ (น้ำซุปเติมฟรี ส่วนเครื่องสามารถซื้อมาใส่เพิ่มได้ค่ะ)
อย่างที่สองคือ “หอยนางรมญี่ปุ่นแบบสด” สั่งทุกครั้ง เพราะของเค้าดีจริง สด ตัวใหญ่ และหวานแบบธรรมชาติ แค่จิ้มโชยุก็ขึ้นสวรรค์แล้วอ่ะ (อยากกินครั้งละ 3 จาน แต่งบประมาณมีจำกัด)
แต่ละครั้งที่ไป จัดจานไม่เหมือนกันเลย
โด๊ฟๆ
ดูสิใหญ่มั้ย เปลือกอลังการมาก
อย่างสุดท้ายที่สั่งทุกครั้ง นั่นคือ “ซูชิ” แต่เป็นสามีสั่งนะคะ คือที่นี่มีให้เลือกแบบปลาชิ้นใหญ่หรือชิ้นเล็กได้ด้วย สามีส้มเลือกแบบชิ้นใหญ่ทุกครั้ง คีบเข้าปากทีนึงนี่ต้องใช้ความพยายามสูงมากค่ะ คือปลาชิ้นใหญ่ชัด คีบทีจะล่วงเอา ส่วนราคาก็สมเหตุสมผล ปลาสดใช้ได้เลย
มาแล้วจ้าซูชิสารพัดอย่าง
ปลาไหลชิ้นใหญ่มาก
อีกซักจานแล้วกัน
เมนูอื่นๆ ก็อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน ตามมาดูกันค่ะ
อันนี้เป็นอาหารที่ไม่ได้สั่งทุกครั้ง ใจจริงอยากลองให้เยอะที่สุด แต่พอกินเมนูประจำตัวไปก็อิ่มซะแล้ว แต่ถึงอิ่มก็ยังอุตส่าห์สั่งโน่นนี่นั่นมาลองเรื่อยๆ เรียกว่าสั่งจากไหนไม่มีผิดหวังค่ะ เข้ากั๊นเข้ากันกับไฮบอลที่สั่งมาดื่ม
คุชิคัตสึ มีให้เลือกหลากหลายอย่างเลยค่ะ แนะนำปลามากุโร่ เนื้อแน่นอร่อยดี
ปีกไก่ทอดกรอบๆ คลุกซอสหวานๆ เค็มๆ กับแกล้มที่คุณคู่ควร
หอยเชลล์ย่างตัวใหญ่ๆ
ทาทากิก็มา
ลิ้นวัวก็ใช้ได้
แฮมเบิร์กชิ้นใหญ่มาก แต่แข็งไปหน่อย ไม่ค่อยชุ่มฉ่ำ
ยากิโซบะรสชาติกลางๆ ไม่เข้มจนเกินไป
หมูผัดซอส
กลัวไม่อิ่มก็จัดข้าวปั้นไส้ไข่ปลาเมนไทโกะซักชิ้น
งานชีสก็มา
ถึงเป็นร้านเน้นดริ๊งก์ แต่อิซากายะที่นี่เค้าก็มีขนมหวานให้บริการด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นไอติม (ทรงแปลกแหวกแนว) , น้ำแข็งใส , เครปเค้กและโรลเค้ก แต่เราเคยสั่งแค่เมนูเดียว เป็นไอติมกับเวเฟอร์ รสชาติธรรมดา แต่ที่เจ๋งคือภาชนะที่ใส่มานี่แหละ
เป็นยังไงกันบ้างคะ อาหารเยอะ แอลกอฮอล์แยะ อย่างที่ส้มบอกมั้ย เอาเป็นว่าเลิกงานวันนี้ อยากไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนกันต่อ มาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
รีวิวหน้ายังมีที่กิน ที่เที่ยวอีกเยอะมาก แล้วเจอกันอีกนะคะ บ๊าย บาย
ข้อมูลร้าน Shakariki 432
สาขา : Nihonmachi Japanese Mall ชั้น 2 (สุขุมวิท 26 / ข้างๆ K Village)
เวลาให้บริการ : จันทร์-ศุกร์ 17.00-03.00 น. , เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00-03.00 น.
เบอร์โทร : 02-258-2661
เฟคบุ๊ก : https://www.facebook.com/shakariki432/
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : http://shakariki432.com/
ที่จอดรถ : จอดที่ลานจอดรถของ Nihonmachi ได้เลยค่ะ
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand