บุกเดี่ยว–เที่ยวตลาดคลองสวน

On สิงหาคม 3, 2010 by admin

นั่งอยู่หน้าจอคอมฯ เย็นวันเสาร์แบบไม่มีอะไรในหัวซักอย่าง อยู่ๆ ก็มีเสียงแว๊บในหัวสมองว่า “วันอาทิตย์นี้ ไปเที่ยวไหนดีหว่า??!” ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีแผนว่าอยากไปไหน แต่เมื่อคำถามนี้เกิดขึ้น กลับนึกถึง “ตลาดคลองสวนร้อยปี” ได้เป็นที่แรก แล้วก็ตัดสินใจว่านี่แหละ จุดหมายปลายทางของเราในวันพรุ่งนี้

เหตุผลที่เลือกไปที่นี่ อย่างเเรกเลยเป็นเพราะว่าใกล้กรุงเทพค่ะ แล้วก็เคยอ่านผ่านๆ จากพวกเว็บไซต์ว่าเดินทางไม่ยาก แล้วส้มก็ไม่เคยไปมาก่อน ไหนๆ ก็ไหนๆ ลองเปิดหูเปิดตาดีกว่านอนเป็นปลาตากแห้งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เซ็งแย่เลย!!

ตึ่ดๆ ตึ่ดๆ เสียงนาฬิกาปลุกตอนเวลา 8 โมงเช้า เพราะกะไว้ว่าตื่นให้เช้าๆ หน่อยจะได้เผื่อเวลา (หลง) ในการเดินทาง แล้วก็จะได้อยู่ที่นั่นให้นานๆ หน่อย แต่แล้วกว่าจะยกหัวขึ้นจากหมอนได้ก็ปาเข้าไปเกือบ 9 โมงแล้ว รีบอาบน้ำ แต่งตัว —และเดินทาง ^^”

เริ่มด้วยมุ่งหน้าไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS แล้วลงที่สถานีเอกมัย จากนั้นก็ไม่ยากค่ะแค่เดินไปซื้อตั๋วรถไปตลาดคลองสวนที่สถานีขนส่งเอกมัย ช่องขายตั๋วจะอยู่ทางขวามือสุดตรงประตูทางออก จะมีเขียนรายละเอียดว่าไปฉะเชิงเทรา (สุวรรณภูมิไรงี้) แล้วก็ป้ายเล็กๆ ว่าไปตลาดคลองสวนด้วย อ่อ! ถ้ากลัวพลาดก็ถามคนขายตั๋วว่าผ่านทางเข้าตลาดคลองสวนหรือเปล่า เพื่อเช็คชัวร์ให้ตัวเองก็ได้ค่ะ สนนราคาอยู่ที่คนละ 40 บาท/เที่ยว เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ

รถที่จะพาเราไปเป็นรถตู้ (เมื่อก่อนเป็นเหมือนบัสเล็ก) สาย 55 ค่ะ (ต้องสาย 55 เท่านั้นนะค่ะ ไม่งั้นอาจไม่ผ่านตลาด) ส้มออกเดินทางจากสถานีขนส่งเอกมัยกับผู้โดยสารร่วมรถอีก 3 คน (ในใจก็คิดว่าดีแฮะ ไม่ต้องรอให้คนเต็ม ก็ออกรถตามเวลาได้เลย) แต่ไม่ต้องห่วงค่ะทุกท่านว่ารถจะว่างจนเกินไป เพราะระหว่างทางเค้าจะแวะรับผู้โดยสารไปเรื่อยๆ แล้วก็เข้าไปในอาคารรถโดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิด้วยนะค่ะ (นั่งๆ ก็อย่าเพิ่งงงว่าพี่โชเฟอร์เค้าจะพาไปขึ้นเครื่องบินแทน) รับๆๆ และรับ จนถึงขั้นเต็มแบบมียืนกันเลยทีเดียว งงมากไม่เคยเจอ แต่ดีนะที่เค้าขึ้นกันแค่คนละแป๊บๆ เด๋วก็ลง ไม่งั้นอึดอัดแย่เลย *-*”

อย่าลืมบอกพี่คนขับเค้าด้วยนะค่ะว่าจะลงหน้าทางเข้าตลาด เด๋วถ้าเลยล่ะแย่นะเนี๊ยะ! พอลงจากรถปุ๊บก็จะเห็นป้าย “ตลาดคลองสวนร้อยปี” ใหญ่เบิ้ม! (ชั้นมาถึงแล้วเว้ยแบบไม่หลงด้วย เย้ๆ) แต่ว่าไอ้ความที่มาคนเดียว ก็ต้องเดินชิวๆ เข้าไปตลาดคนเดียว โดยมีรถเก๋งบ้าง กระบะบ้างขับผ่านเข้าไป (เฮ้อ! อย่าให้ชั้นมีบ้างแล้วกั๊น)  ระยะทางก็ประมาณ 3-4 ร้อยเมตรค่ะ ไม่ไกลๆ เดินไปแบบขำๆ

อ่อ! สำหรับการเดินทางกลับก็ง่ายๆ เหมือนกันคะ แค่รอรถตู้แบบเดิม สาย 55 นั่งกลับเอกมัย (แต่ต้องขึ้นคนละฝั่งกับขาที่มาถึงนะ) ก็โบกกลับได้เลยค่ะ แต่มีข้อสังเกตนึดนึง ถ้าเค้าวางป้าย “เต็ม” แปลว่า ที่นั่งเต็มคุณอาจจะโดนยืนหรือนั่งเบียดกับคนอื่นนะค่ะ แต่ว่ามันจะมีรถตู้อีกสายหนึ่ง จะมีป้ายติดหน้ารถว่า “ลาดกระบัง” แปลว่าจะไปสุดสายแค่ลาดกระบัง เราต้องหารถเมลต่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางของเราอีกที ดังนั้น ส้มแนะนำ โปรดรอสาย 55 เถอะค่ะ ไมงั้นเราจะงง ส่วนเวลาที่รถจะมาก็เหมือนกับขาที่ออกจากเอกมัยเลยค่ะ ก็ถ้าเวลารถออกซัก 14.00 น. เวลา 14.15 น. เราควรอยู่รอขึ้นรถ ณ จุดที่เราลงมาได้แล้วค่ะ (เด๋วเขียนบอกด้านข้างสุดว่ามีเวลาออกเดินทางตอนกี่โมงบ้างนะค่ะ)

ถึงซะที “ตลาดคลองสวนร้อยปี” เห็นประตูทางเข้าแอบหวั่นๆ ในใจว่าทำไมมันเล็กอย่างงี้ว่ะ แล้วตลาดจะขนาดไหนเนี๊ยะ (อย่านะ อย่าเล็กๆ แบบเดินแป๊บเดียวหมดแล้ว ชั้นอุตส่าห์นั่งรถมาตั้งไกล!) แต่ที่ไหนได้ตลาดกว้างใหญ่ใช่เล่นเลยค่ะ  แถมร้านค้า อาหารการกินไม่ได้ขาดสาย หิวตรงไหน นั่งแหมะมันตรงนั้น และที่สำคัญเที่ยวตลาดนี้ตลาดเดียว แต่ได้ไปตั้ง 2 จังหวัดแนะ (ไม่ธรรมดาใช่ม่ะ)

พอเข้ามาด้านในแล้วคุณลุงคนนี้ก็รอต้อนรับด้วยการร้องเพลงขับกล่อม (ซะเราตาปรือเชียว) พร้อมกับความรู้สึกตระการตากับร้านค้าที่เยอะอะไรขนาดนี้เนี๊ยะ ซ้ายก็ทอดมัน ขวาก็ขนมชั้น ข้างหน้าก็มะม่วงแช่อิ่ม โอ้ย!! อยากกินไปหมดเลยอ่ะ ปลื้มปริ่มมั่กค่ะ (ของชอบอยู่แล้วไอ้เรื่องกินๆ เนี๊ยะ)

แต่ก่อนที่เราจะไปดูเจ้าหน้าตาอาหารที่แสนจะยั่วน้ำลาย ส้มว่าเราไปสัมผัสกับภาพวิถีชีวิตชุมชน ความเป็นธรรมชาติของทั้งผู้คน และสิ่งแวดล้อมกันก่อนดีกว่า และสิ่งหนึ่งที่ส้มบอกได้เลยว่าประทับที่สุด นอกเหนือจากบรรยากาศแบบเก่าๆ แล้ว ไม่ใช่อาหารการกินที่มากมาย และรสชาติแสนอร่อย

แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดและเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ส้มสัญญากับตัวเองไว้ว่า วันหนึ่งจะกลับไปที่ตลาดแห่งนี้อีก คือ “มิตรภาพ รอยยิ้ม และความจริงใจ” ของพ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านที่นี่ ทริปนี้ส้มไม่เห็นภาพแม่ค้าปากร้าย หน้าบึ้ง แต่ทุกที่ที่เดินผ่าน ทุกร้านที่ขอเข้าไปถ่ายรูป ทุกคนเต็มใจและยินดีอย่างยิ่งที่เชื้อเชิญเราเข้าไปถ่ายรูปในร้าน ในบ้านของเค้า ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อุดหนุนอะไรจากร้านเค้าเลยก็ตาม

คุณยายนั่งง่วงเชียวนะค่ะเนี๊ยะ อุดหนุนคุณยายกันหน่อยนะค่ะ ร้านแกอยู่หน้าตลาดเลยค่ะ

โคมไฟประดับหน้าร้านขายของ

ที่ทำการแพทย์ประจำตำบลคลองสวน

เก่าไม่เก่า ดูจากหยากไย่พอจะเดาออก อิอิ

สะพานไม้ เห็นแล้วสัมผัสได้ถึงความเก่า

บ้านไม้ริมคลอง

เรือสีสวยดี ชอบๆ

พัดลมเพดานแบบนี้ เด๋วนี้ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่

ชอบบรรยากาศร้านตัดผมนี้มากเลยค่ะ ทั้งการตกแต่งร้าน อุปกรณ์ที่ใช่ยังเหมือนสมัยก่อน แต่ดูท่าทางคุณลุงจะมืออาชีพมากๆ

นี่คือพาหนะในการขายไอติมกระทิ

ส่วนนี่ก็ประชาสัมพันธ์ตลาดคลองสวน ตกแต่งแนวเป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่า มีโปสการ์ดขายด้วยนะค่ะ เผื่อใครอยากส่งให้ที่บ้าน

และแล้วก็สุดเขตจังหวัดสมุทรปราการ

 

เพียงแค่ข้ามสะพานนี้เราก็เข้าสู่ฝั่งจังหวัดฉะเชิงเทราแล้วค่ะ (บอกแล้วว่าเที่ยวตลาดเดียวไป 2 จังหวัดค่ะ)

บ้านเรือนฝั่งจังหวัดฉะเชิงเทราค่ะ

ส่งท้ายตลาดคลองสวนฝั่งสมุทรปราการกับภาพผู้คนที่มาท่องเที่ยวเยอะแยะเลย

ข้ามไปฝั่งฉะเชิงเทรากันดีกว่า ระวังโดนเบียดตกนะจ๊ะ

และแล้วก็มาถึงร้านที่ทุกคนอยากมาเยือน ก็ไปดูเว็บไหน บล็อกใดก็เจอกับ “กาแฟ แป๊ะหลี”อาแป๊ะน่ารักสุดๆ มานั่งคุยโน่นนี่นั่นกับเรา อัธยาศัยดี ใครขอถ่ายรูปก็ไม่รอช้า พร้อมกับบอกว่า “ถ่ายให้เห็นป้ายร้านด้วยนะ จะได้รู้ว่ามาถึงแล้ว”แถมบอกกับส้มว่า “ขอโทษด้วยนะวันนี้ไม่ค่อยมีเวลานั่งคุยด้วย วันอาทิตย์คนเยอะ” –“ไม่เป็นไรค่ะแป๊ะ หนูเข้าใจ อิอิ” — ในรูปเล็กน่ะ 27 แต่ตัวจริงน่ะ 87 (ณ ปัจจุบันนี้ อาแปะเสียชีวิตไปแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยนะคะ)

เห็นแข็งแรงแล้วก็ขยันขนาดนี้แป๊ะอายุได้ 87 ปี แล้วก็ขายกาแฟมาแล้วกว่า 73 ปีค่ะ ดังนั้น รับรองความอร่อยแต่ว่าถ้าไปวันเสาร์-อาทิตย์ แป๊ะต้องชงไว้เยอะๆ ไว้รองรับลูกค้า จะชงทีละแก้วคงไม่ไหว แต่รสชาติยังแน่นอนอยู่ค่ะ แล้วถ้าใครอยากกินห้อยจ๊อ ปูจ๋า หรือผัดไทยโบราณก็สั่งร้านฝั่งตรงข้ามมานั่งกินเล่นได้ (ร้านหลานของอาแป๊ะเองค่ะ)

บรรยากาศในร้านค่ะ

ส่วนนี่ชื่อร้านเงินโบราณ เห็นว่าชื่อเงินโบราณก็ใช่ว่าจะมีแต่เงินเก่าๆ ให้เห็น พวกข้าวของเครื่องใช้ของคนสมัยก่อนก็มีมากมาย แล้วถ้าใครอยากซื้อไว้ตกแต่งบ้านเค้าก็ขายนะค่ะ ราคาไม่แพงมาก (จากที่สอดส่องดู) แถมพี่ช่างยาว (เจ้าของร้าน) ยังใจดีอีกด้วย หยิบโน่นนี่มาให้ดู และก็อธิบายให้ฟังว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง ทำให้ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยค่ะ

ปิดท้าย Past 1 ด้วยภาพนี้แล้วกันค่ะ ส้มเห็นตอนขึ้นไปยืนอยู่บนสะพานข้ามคลอง พอเห็นแล้วชอบ ทำให้รู้สึกว่าของเก่ากับของใหม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะอยู่ร่วมกับอย่างไร ก็เหมือนวิถีชิวิตของคนที่นี่ แม้ว่าวันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ความทันสมัยจะก้าวมาเร็วเท่าไหร่ แต่ผู้คนยังคงยึดมั่นที่จะอนุรักษ์ทุกอย่างไว้ให้เหมือนเช่มเดิมมากที่สุด ขอบคุณพ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านทุกคนที่ทำให้ส้มยังได้สัมผัสกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้ค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ ยังไงก็เม้นท์ให้บ้างนะค่ะ จะดีใจสุดๆ ไปเลยค่ะ อิอิ

 

เวลารถออกจากสถานี

6.10 น. / 7.00 น. / 8.00 น. / 9.30 น. / 12.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น. และ 17.00 น.

 

ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น