“NIRAI KANAI” เสน่ห์อาหารญี่ปุ่นตอนใต้ สไตล์โอกินาว่า

On กุมภาพันธ์ 3, 2014 by admin

ชูชิ ซาชิมิ โอโคโนมิยากิ ราเมน เมนูเหล่านี้ เชื่อสิค่ะว่าสาวกอาหารญี่ปุ่นไม่มีทางพลาดแน่นอน แต่พอทานบ่อยๆ ก็แอบมีเบื่อกันบ้าง วันนี้ส้มเลยขออาสาพาไปชิมอาหารญี่ปุ่นที่ถึงแม้จะมีชื่อเรียกแบบเก่าๆ แต่รสชาติแปลกใหม่แน่นอน ร้าน “NIRAI KANAI” (นิราอิ คานาอิ) จะทำให้เราได้สัมผัสกับรสชาติของอาหารโอกินาว่าแบบแท้ๆ เพียงแค่คุณขับรถมาที่ทองหล่อค่ะ

NIRAI KANAI ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า แดนสวรรค์ที่มีแต่ความรื่นรมย์ โอ้โห! แค่ชื่อเฮียก็กินขาดแล้ว แต่ว่าเจ้าอาหารโอกินาว่าหน้าตามันเป็นยังไง อาหารที่อยู่บนเกาะทางใต้สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ มีอะไรที่เป็นทีเด็ดบ้างหนอ???

บอกตามตรงเลยค่ะว่าส้มมีความรู้เรื่องอาหารโอกินาว่าน้อยมาก ตอนที่ตัดสินใจไปทานร้านนี้ เพราะอยากลอง อยากรู้เป็นที่ตั้งล้วนๆ เลยค่ะ อ่อ! ถึงแม้จะแทบไม่มีข้อมูลอะไรมาก แต่ยังแอบรู้มานิดหน่อยว่าของขึ้นชื่อที่โอกินาว่า คือ องุ่นทะเล และมะระ งั้นต้องไปพิสูจน์กันว่าวัตถุดิบสองอย่างนี้รสชาติมันจะอร่อยสมกับที่เป็นของเด่นของดังในเกาะโอกินาว่ารึเปล่า

แดนสวรรค์ที่มีแต่ความรื่นรมย์แห่งนี้ ทำให้ส้มสะดุดตามากๆ กับการตกแต่งร้านค่ะ ถือว่าแปลกตาไปจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆ ไป เค้าทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศโอกินาว่าแบบที่เคยดูในรายการท่องเที่ยวเลยค่ะ แถมยังมีภาพวาดและรูปปั้นของเจ้า “Shisa” (ซีซ่า) สัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายสิงโต สัญลักษณ์ของจังหวัดโอกินาว่าประดับประดาอยู่เต็มร้าน ยิ่งรู้สึกอินและเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองนั้นเลยล่ะค่ะ

มาไม่ผิดร้านแน่ๆ

เจ้าซีซ่า จะน่ากลัวหรือน่ารักดีหว่า

ที่นั่งของทางร้านแบ่งได้หลายโซนค่ะ จะนั่งหน้าเคาน์เตอร์ดูเชฟจัดเตรียมอาหาร หรือนั่งชิลๆ ด้านในพร้อมฟังเพลงสไตล์โอกินาว่าไปด้วยก็ไม่มีใครว่า อันนี้แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ เมื่อเลือกที่นั่งที่ถูกใจได้แล้ว เรื่องสำคัญที่ต้องทำมากที่สุดตอนนี้คือสำรวจและเลือกเมนูที่หมายปองกันเลย

หน้าเคาน์เตอร์ แบบวีไอพี เกาะติดชีวิตเชฟ อิอิ

นั่งด้านใน ยืดแข้งยืดขาได้สบายดี

เดินสำรวจร้านกันเุถอะ

เมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบเบาๆ เช่น เต้าหู้เย็น , ไข่ม้วน หรือจะเป็นเมนูจัดหนัก เช่น ราเมน , ซาชิมิจานใหญ่ แต่เมนูที่กล่าวมาก็ดูไม่ค่อยแหวกแนวจากอาหารญี่ปุ่นที่เคยไปชิมซักเท่าไหร่ ส้มนั่งพลิกเมนูไปมาอยู่หลายรอบ ในที่สุดก็ได้ผู้เข้าแข่งขันหลายอย่างเลย ตามไปดูกันค่ะ

เมนูอาหารถ่ายมาน้อยไป ขออภัียอย่างสูง ><“

ระหว่างรออาหาร ขอจิบน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อน แต่ต้องขออภัยเพื่อนด้วยนะคะ ที่ส้มจำชื่ออย่างเป็นทางการของเครื่องดื่มไม่ได้จริงๆ รู้แต่ว่าแก้วเเรกเป็นเลมอนผสมวอสก้า ส่วนแก้วสองเป็นโคล่าผสมวอสก้าเช่นกัน สำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ส้มว่าก็พอจิบๆ ได้นะ เพราะเค้าใส่วอสก้าค่อนข้างน้อย แค่พอให้รับรสได้เท่านั้นเองค่ะ

พอประมาณ

จิบไป นั่งมองอาวุธไป

จิบน้ำแบบชิลๆ ไปเกือบครึ่งแก้ว (คือมันอร่อย ชอบอ่ะ) อาหารก็มาแล้วค่ะ เริ่มที่เมนู “องุ่นทะเล” เรียกว่าส่งตรงมาจากโอกินาว่าเลยค่ะ องุ่นทะเลก็คือสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่ง แต่มีลักษณะเป็นพวงคล้ายองุ่นค่ะ (เเต่เม็ดเล็กกว่าเยอะนะ) รสชาติก็จะเค็มๆ เหมือนเค็มน้ำทะเล กรุบๆ เคี้ยวเพลินดีค่ะ แต่ว่าส้มไม่ได้เลือกทานเฉพาะองุ่นทะเลนะคะ เพราะในชุด “ผักโอกินาว่ารวมมิตร” จะมีผักนานาชนิด ที่เป็นที่นิยมในเมือง นั่นคือ มะระโอกินาว่า, ว่านหางจระเข้ , สาหร่ายโอกินาว่า (แบบเปรี้ยวหวาน) และผักกวางตุ้งลวก ทานกับน้ำจิ้มเค็มหรือน้ำจิ้มงาทีละคำสองคำ เผลอแีป๊บเดียวหมดจาน (อันนี้ยกเว้นว่างหางจระเข้นะคะ กินไม่หมดจริงๆ ค่ะ เพราะสัมผัสมันหยืยๆ ยังไงชอบกล)

องุ่นทะเล อร่อย งั่มๆ

ดูรักสุขภาพเชียว

มะระสไลด์บางๆ ไม่ขมเท่าไหร่

เมื่อมาทางเพื่อสุขภาพแล้ว ขอจัดเมนูชีวจิตต่อ ด้วย “เห็ดหอมย่าง” ค่ะ เห็ดที่นี่ดอกใหญ่ดี ย่างมาพอหอม ไม่ถึงกับไหม้หรือเเห้ง แค่ปีบมะนาวนิดหน่อยก็อร่อยแล้วล่ะค่ะ ต่อด้วย “สาหร่ายทอด” (สาหร่ายอีกแล้วหรอ 555) อันนี้ให้อารมณ์คล้ายกินสาหร่ายเถ้าแก่น้อย แต่กรอบและเต็มปากเต็มคำกว่าเยอะ ถึงหน้าตามันค่อนไปทางขี้เหร่ แต่รสชาติเค็มนิดกรอบหน่อย ชนะใจเราไปเลยค่ะ

เห็ดหอม หอมสมชื่อ

สาหร่ายทอด ยี่ห้อ “โอกินาว่า” (ตั้งเองซะเลย)

ออเดิร์ฟเพื่อสุขภาพไป 3 เมนูแล้ว แต่ปริมาณก็ไม่ได้ทำให้กระเพราเราระคายเคืองได้เลยค่ะ ถ้าอย่างงั้นคงต้องจัดเมนูหนักๆ ท้องหน่อย เริ่มจาก “ขาหมูโอเด้ง” จานนี้เตะตาส้มตั้งแต่เปิดมาเจอภาพเลยค่ะ แต่พอพนักงานยกมาเสิร์ฟก็แอบผิดหวังเล็กน้อย ตรงที่ชิ้นมันเล็กเกิน แถมไม่ร้อนเท่าไหร่ ถ้าร้อนๆ คงได้ใจไปมากกว่านี้ ทานขาหมูโอเด้งก็เหมือนทานคากิในร้านข้าวขาหมูนี่แหละค่ะ แต่รสมันจะนุ่มนวล ไม่เข้มเครื่องเทศเท่า น้ำซุปถึงแม้จะให้มาน้อยนิด แต่ก็รับรสได้่ว่ากลมกล่อมใช้ได้เลยค่ะ

ยกมาทั้งขาบน ขาล่างเลยได้มั้ยเพ่!!

เมนูต่อมาคือ “TOFU-TSUKUNE” หรือไก่กับเต้าหูปั้นผสมกันแล้วนำมาทอด เมนูนี้มาพร้อมกับไข่แดงดิบ เวลาทานก็เพียงแค่ตีไข่ให้แตก จากนั้นก็คีบเนื้อไก่จิ้มแล้วก็ อ้ามมมมม เป็นอันเรียบร้อยค่ะ ส้มชอบเมนูนี้นะคะ ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นอาหารที่ธรรมด๊า ธรรมดาไปซะหน่อย แต่รสชาติกลมกล่อม หวานๆ เค็มๆ ยิ่งได้จุ่มไข่เล็กน้อย มันเข้ากันดีอ่ะ (ใครหนอชั่งคิดว่าต้องกินคู่ไข่ดิบ )

เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ

น้ำจิ้มขั้นเทพ

เริ่มอิ่มกันรึยังค่ะ….สำหรับคนอื่นส้มไม่รู้ แต่สำหรับส้ม “ไม่อิ่ม” แน่นอนค่ะ แต่ละเมนูเล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋มขนาดนั้น ใครจะไปอิ่มได้ล่ะ งั้นขอเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มอีกซักนิดแล้วกัน เมนูเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก “Aji-TATAKI” (อาจิ ทาทากิ) ปลาสดดีค่ะ เนื้อหนึบๆ สู้ฟันดี เมนูนี้วางไม่นาน ก็หมดซะแล้ว อิอิ

กินปลาจะได้ฉลาด

เมนูปลาผ่านไปตามมาด้วยเมนู “SUCHIKA” หรือหมูสามชั้นหมักเกลือ แล้วนำไปต้มหลังจากนั้นก็เอามารนไฟพอหอม ทานคู่กับสลัดผักที่วางมาคู่กัน เมนูนี้ถึงแม้จะจานเล็กแต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ หมูสามชั้นนุ่มๆ เค็มๆ หอมกลิ่นย่าง โอ๊ย!! ฟินค่ะฟิน

เคยแคร์มั้ย ไขมันน่ะ

เมนูรองสุดท้าย ที่จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว แหะๆ หน้าตาเหมือนข้าวห่อไข่ แต่เครื่องปรุงแบบโอโคโนะมิยากิ อร่อยดีค่ะ ^^”

ถึงจำชื่อไม่ได้ แต่รสชาติยังไม่ลืมนะ

เมนูส่งท้ายวันนี้ ขอนำเสนอ และใส่เครื่องหมายดอกจัน-ขีดเส้นใต้ไว้ด้วยเลยค่ะ ว่าควรต้องสั่งเมื่อมาถึงร้าน NIRAI KANAI นั่นคือ “TACO RICE” ชื่อคุ้นๆ มั้ยค่ะ ชื่อคล้ายอาหารเม็กซิกันชนิดหนึ่งเลย แต่นี่คือ “ข้าวทาโกะ สูตรโอกินาว่า” ที่หาทานได้ที่เกาะโอกินาว่าและที่ร้านนี้เท่านั้น เมนูนี้ดังมากๆ เลยในโอกินาว่า ส้มเคยดูรายการท่องเที่ยวช่องหนึ่ง ก็พาไปทานเมนูนี้เช่นกันค่ะ

เพื่อนๆ อาจจะเคยทาน TACO อาหารเม็กซิกัน ที่เป็นแผ่นแป้งและใส่ไส้เนื้อบด ผสมมะเขือเทศและผักต่างๆ อยู่้บ้าง และเมนู TACO นี่แหละค่ะที่เป็นต้นแบบของ TACO RICE โดยชาวโอกินาว่าเค้าเอามาประยุกต์จากที่ใช้แผ่นแป้งห่อ ก็ใช้ข้าวแทนมันซะเลย แถมไม่ต้องเสียเวลาห่ออีกด้วย แค่ตักข้าวใส่จาน แล้วใส่เครื่องที่คล้ายกับทาโก้ เวลาจะทานแค่คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ก็อิ่มอร่อยกับเมนูนี้ได้แล้วล่ะค่ะ

ไฮไลน์ประจำมื้อนี้

แต่ร้านนี้ได้เพิ่มเติมวัตถุดิบจากต้นฉบับโอกินาว่านิดหน่อย ด้วยการโรยพริกชี้ฟ้าลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน ตามสไตล์จัดจ้่านแบบคนไทย รสชาติเผ็ดๆ เปรี๊ยวๆ และรสสัมผัสที่หลากหลายจากวัตถุดิบต่างๆ ทำให้จานนี้อร่อยมากๆ เลยล่ะค่ะ ทานมาเยอะขนาดนี้ทำเอาส้มอิ่มตื้อเลยล่ะ ก็แหม! ข้าวเต็มจานซะขนาดนี้ ไม่อิ่มใครเค้าจะเลี้ยงไหวล่ะเนอะ ><“

จานเดียวได้สารอาหารครบทุกหมู่ คุ้ม!

เมนูปิดท้าย (ที่ไม่น่าสั่งมาปิดท้ายเล้ย) คือ “เผือกปรุงรส สูตรโอกินาว่า” ที่สั่งเมนูนี้ เพราะคุณแฟนเข้าใจ(ไปเอง)ว่ามันคือเมนูของหวาน พอชิมคำแรกเท่านั้นแหละค่ะ ส้มวางช้อนทันทีเลย คือส้มไม่ได้เป็นพวกเผือกเลิฟเวอร์อยู่แล้วด้วย พอเจอรสชาติเผือกผสมเครื่องปรุงเค็มๆ เข้าไป แทบแย่เลยค่ะ เมนูนี้ไม่ถูกปากอย่างแรง แต่ใครอยากลองของแปลก ก็เชิญได้นะจ๊ะ T_T (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายภาพมาจ้า)

อาหารส่วนใหญ่ถือว่าอร่อยถูกปากมากเลยค่ะ เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ ไม่เลี่ยนเหมือนอาหารญี่ปุ่นหลายๆ จานที่เคยทานมา แถมมีผักและมีสีสันจากวัตถุดิบที่ใช้ปรุงเยอะแยะดี จริงๆ ที่ร้านนี้ยังมีอีกหลายเมนูให้เราได้ลองนะคะ แต่ส้มทานไปเท่านี้กางเกงก็แทบแตกแล้วค่ะ เอาเป็นว่าใครอยากออกนอกกรอบเมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วๆ ไป ลองมาทานร้าน NIRAI KANAI ดูนะคะ ส้มว่าคุณจะไม่ผิดหวังที่อุตส่าห์ขับรถฝ่าการจราจรที่แออัดมาแน่นอนค่ะ แต่วันนี้เค้าขอตัวไปนอนรอพุงแฟบก่อนนะ บ๊ะบาย

ปล. ขออภัยหากรูปไม่สวย เนื่องจากถ่ายจากกล้องมือถือผสมด้วยน่ะค่ะ 🙂

ซีซ่าน้อยมาส่ง

ข้อมูลร้าน

NIRAI KANAI นิราอิ คานาอิ (สาขาทองหล่อ ซอย 11 หรือ สุขุมวิท 55)

– ประเภทอาหารโอกินาว่าและร้านกินดื่ม (Izakaya)

– 17:00 – 24:00 น.

– มีที่จอดรถอยู่ตรงข้ามตรง (อย่าลืมปั้มบัตรจอดรถด้วยนะคะ)

– เบอร์โทร 02-381-2882

 

ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น