อิ่มหมีพลีมัน-ไปเที่ยวกันที่-อัมพวา

On มีนาคม 31, 2010 by admin

 

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ก็ 31 ธันวาคมแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะก้าวผ่านปี 2552 มุ่งสู่ปี 2553 ปีเสือที่ใครก็ว่าท่าทางจะดุน่าดู แต่ส้มหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นนะคะ แล้วส้มขอถือโอกาสนี้อวยพรปีใหม่ล่วงหน้าให้กับทุกๆ คน ขอให้มีความสุข ทั้งกายและใจ ให้มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และอารมณ์ดีตลอดทั้งปีนะคะ

พูดถึงเทศกาลปีใหม่ หลายคนคงกำลังวางแผนพาเพื่อน แฟน หรือครอบครัวไปเที่ยวกันใช่มั้ยค่ะ วันนี้ส้มมีหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำ นั่นคือ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เดินทางสะดวก และที่สำคัญใช้งบประมาณในการเที่ยวไม่มากนัก (^^ ของชอบเลย)

อัมพวา ใครบ้างนะที่ส่วยหน้าไม่รู้จัก คง 0.01 % มั้ง ส้มเดาว่าชื่อนี้จะทำให้เรานึกถึง ตลาดน้ำที่มีอาหารอร่อย ผู้คนขวักไขว่เดินจับจ่ายใช้สอย โฮมสเตย์เลิศๆ รวมถึงวิถีชีวิตแบบไทยๆ ที่อยู่ริมน้ำ… ใช่ค่ะ สิ่งที่คิดนั้นไม่ผิดค่ะ เพราะถ้าไปอัมพวาเราจะได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเลย

ไหนๆ เราก็นึกถึงตลาดน้ำแล้ว ส้มก็จะพาไปเที่ยวตลาดน้ำให้หนำไปเลยค่ะ เริ่มจาก ตลาดน้ำอัมพวา (ยอดฮิต) , ตลาดน้ำบางน้อย และสุดท้าย ตลาดน้ำบางนกแขวกค่ะ

นั่งรถจากกรุงเทพในเย็นวันเสาร์มาทางเส้นพระราม 2 ผ่านมหาชัย มุ่งสู่จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ตั้งของตลาดน้ำอัมพวา ระหว่างทางก็จะเห็นป้ายแนะนำโฮมสเตย์ หลายที่ หลายราคา หลายโลเกชั่น (เลือกพักกันได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ) นั่งอยู่บนรถมองวิวข้างทางไปเรื่อยๆ และเเล้วเราก็มาถึงจนได้ “ตลาดน้ำอัมพวา”

ภาพแรกที่ส้มเห็นคือผู้คนมากมาย ทุกเพศ ทุกวัย กำลังเดินเบียดเสียดเข้าไปในเส้นทางแคบๆ ที่จะพาเราไปสู่ตลาด และรถที่ติดกันยาวเหยียด ต่างคนต่างจับจ้องหาที่ว่างเพื่อให้รถของตัวเองแทรกตัวเข้าไปจอดได้ แล้วเราก็ทำได้ค่ะ ได้ที่จอดรถจนได้ (ดีใจกว่าสอบเอ็นฯ ติดอ่ะ 555+) ตอนที่มาถึงก็ซัก 2 ทุ่มได้แล้ว เพราะเราออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 6 โมงกว่าๆ (ซึ่งรถติดมาก) กว่าจะมาถึงก็ป่านนี้แหละค่ะ

อยากที่บอกว่าส้มตื่นตาตื่นใจกับผู้คน และที่สำคัญของขายมากมายที่รายล้อมอยู่ มันเยอะจนไม่รู้จะเดินไปทางไหนก่อนดี เอาเป็นว่าคนดันเราไปทางไหน เราก็ไปทางนั้นแล้วกันเนอะ

เริ่มกันที่ของที่ระลึกกันก่อนดีกว่าเนอะ (อาหารอดใจรอแป๊บค่ะ) ของที่นี่น่ารักๆ ทั้งนั้น ส่วนใหญ่เป็นงาน แฮนด์เมทค่ะ มีทั้งงานไม้ ภาพวาด ภาพถ่าย เครื่องปั้นดินเผา เสื้อผ้าที่ต้องเขียนคำว่า “อัมพวา”  ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ ถือว่าพอรับได้ (อ่อ!! อย่าลืมซื้อของฝากที่เป็นพวกแนวปลาทูนะคะ ที่อัมพวาเค้าขึ้นชื่อเรื่องนี้ “ปลาทู หน้างอ คอหัก”)

ส้มว่าถึงเราไม่ได้ซื้อแต่ก็มีความสุขกับการได้เห็นของน่ารักๆ ที่ทำมาจากใจของพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลาย บวกกับบรรยากาศชิลๆ ริมน้ำ ชิลได้ใจจริงๆ ค่ะ

เดินดูพวกของฝากเสร็จแล้ว ก็มาต่อกันที่ของกินของตลาดน้ำอัมพวากันบ้าง ที่ส้มเห็นเยอะสุดๆ คือ หอยเชลล์ กุ้ง และปลาหมึกย่างสดๆ ที่แม่ค้าจะพายเรือมาขายกันเต็มไปหมด ราคาก็เบาใจ สบายกระเป๋าเหมือนเดิมเลย (หอยเชลล์จานละ 30 บาท , ปลาหมึกประมาณ 60 – 100 บาท , กุ้ง 100) ไม่ใช่แค่นี้นะค่ะ เอาเป็นว่าไปดูภาพกันเลยดีกว่าว่าเยอะขนาดไหน เริ่มที่ของคาว (น้ำลายไหลอ่ะ)

ของคาวเต็มท้องแล้ว มากินของหวานล้างปากกันดีกว่าเนอะ เอ… กินอะไรดีค่ะ

ของกินคงเต็มอิ่มกับพอสมควรเนอะ คราวนี้ส้มจะพาไปดูบรรยากาศของตลาดน้ำอัมพวากันต่อ เมื่อเราเดินไปถึงตัวตลาด สิ่งที่เราจะได้ยินคือ บทเพลงทั้งลูกทุ่ง ลูกกรุง ที่ขับขานจากพ่อค้า-แม่ค้า และนักท่องเที่ยวที่อยากโชว์พลังเสียง สนนราคาค่าร้อง (คาราโอเกะ) เพลงละ 5 บาท ที่ตั้งอยู่ได้สะพานค่ะ ระหว่างทางก็มีเพลงบรรเลงให้ฟังอีกเรื่อยๆ ฟังเพลงสตริงมาเยอะ ลองมาฟังแบบนี้ดูบ้างก็เพราะดีนะคะ

 

บรรยากาศตอนค่ำๆ ก็สวยไปอีกแบบค่ะ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่านล่ะก็ คงต้องทำใจนิดนึง เพราะที่นี่พลุกพล่านถึงใจจริงๆ โดยเฉพาะบนสะพาน มุมถ่ายภาพยอดฮิตเลยล่ะ

ที่อัมพวามีพิพิธภัณฑ์ให้เราได้เข้าไปศึกษาความรู้ด้วยนะ ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์อนันต์ชัยไทยโบท” แค่ชื่อก็น่าจะเดาได้แล้วว่าที่นี่จัดแสดงเกี่ยวกับอะไร “เรือ” นั้นเองค่ะ เขาจำลองเรือในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ทั้งเรือแบบชาวบ้าน เรือใช้เพื่อการประมง หรือแม้แต่เรือรบ แถมด้วยวิธิการทำเรือจำลอง พร้อมอุปกรณ์ด้วยค่ะ แล้วก็มีเรื่องราววิถีชีวิตคนไทยในอดีตด้วยค่ะ (พิพิธภัณฑ์จะถูกเปลี่ยนเรื่องราวที่นำเสนอไปเรื่อยๆ)

หากเพื่อนๆ เดินกันจนเมื่อยล้าแข้งขา แล้วอยากจะนั่งพักแต่หาที่นั่งไม่ได้ แนะนำให้ไปร้านนี้นะคะ ดูด้านนอกเป็นร้านอาหารแบบถ้าเราไม่กินที่ร้านเขา อย่าหวังว่าจะได้นั่ง แต่ที่นี่เขาใจดีค่ะ เราซื้อของจากร้านด้านนอก เข้าไปนั่งกินข้างในได้ตามใจชอบเลยค่ะ ด้านในมีร้านค้าชุมชนตั้งอยู่ด้วยนะ อย่าลืมแวะไปอุดหนุนแม่ค้า พ่อค้ากันด้วยนะคะ

เดิน กิน ถ่ายรูป จนดึกดื่นก็เริ่มง่วงแล้วล่ะค่ะ งั้นเราขับรถไปพักที่โฮมสเตย์ที่จองไว้ดีกว่า ส้มเลือกไปพักที่ “บ้านสุพรรษาโฮมสเตย์”

บ้านสุพรรษาโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวตลาดน้ำอัมพวาหน่อยนะคะ แต่ว่าติดริมน้ำเหมือนกัน ขับรถจากตลาดไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง ที่สำคัญราคาถูกมาก ส้มเลือกนอนแบบเต้นท์ค่ะ (อยากชิลจัดๆ) ราคาคนละ 150 บาทเองอ่ะ รวมอาหารเช้าด้วยนะ ไม่ต้องกลัวว่านอนไม่สบาย เจ้าของบ้านเค้าปูที่นอนให้เราพร้อมฟูก ผ้าปู ผ้าห่ม บอกเลยว่าเจ้าของบ้านน่ารักมั่กๆ ค่ะ ที่นี่อาจจะไม่ได้ตกแต่งสวยงามอะไรมากมาย แต่เขาให้บริการด้วยใจจริงๆ อ่อ!! ที่นี่มีบริการพาเที่ยวด้วยนะ ลองเข้าไปหาข้อมูลดูจากเว็บไซต์ด้านล่างได้ค่ะ

http://www.suphansa.com/home.htm

แม้จะนอนในเต้นท์ แต่ก็อยู่ในชายคาบ้าง ไม่ได้อยู่กลางแจ้ง นอนหลับสบายเลยค่ะ ตื่นเช้าวันอาทิตย์ก็ได้สูดอากาศสดชื่นของธรรมชาติ นั่งดูน้ำไหลเอื่อยๆ จิบกาแฟ แล้วก็หม่ำข้าวต้มกุ้ง หมึก ที่คุณป้าเจ้าของบ้านทำให้ (150 บาท ได้กินข้าวต้มกุ้ง + ผลไม้ตบท้าย) เราก็ได้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไปเที่ยวกับต่อ กับอีก 2 ตลาดน้ำที่ขับรถไปทางเดียวกับอัมพวา แต่ต้องเลยเข้าไปอีก ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเก็บไว้นิดหน่อย เห็นกลองอันเบิ้ม (นี่เองที่มาของแม่กลอง) แล้วก็ถ่ายตลาดร่มหุบ ที่มันวายไปเเล้ว เพราะเราออกมาสายไป เศร้าใจจังที่อดดูบรรยากาศของจริง T_T

แล้วเราก็ขับรถมาถึง “ตลาดน้ำบางน้อย” ที่นี่ผู้คนยังไม่เยอะเท่าตลาดน้ำอัมพวาค่ะ ส้มชอบนะ รู้สึกว่าได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่แถวนี้จริงๆ ของกินที่นี่อร่อยๆ หลายร้าน การตกแต่งก็น่ารักกันทั้งนั้น ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากที่ๆ มีผู้คนพลุกพล่าน ก็ลองมาตลาดบางน้อยได้นะคะ

เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราขับรถต่อไปเที่ยว “ตลาดน้ำบางนกแขวก” กันต่อเลย ตลาดนี้ถือว่าคนน้อยสุดใน 3 ตลาดที่ไปมา แต่ก็ไม่ได้น้อยจนเหงานะคะ ที่นี่เราได้ถ่ายรูปแบบไม่ต้องต่อคิวเลย (ชอบๆๆๆ) อาหารแนะนำเลย คือ เมี่ยงปลาหยอง และหอยเชลล์ทรงเครื่องค่ะ ร้านอยู่ติดกัน อร่อยมาก อีกอย่างที่น่ากินแต่ไม่ได้กินเพราะคนเยอะมากคือ ผัดไทยค่ะ เขาให้กุ้งตัวเป้งมาก ไม่มีหวงให้เสียอารมณ์ ถ้าได้มาครั้งหน้าต้องขอลองซักหน่อย

ส่วนร้านนี้ “บ้านขนมจีน บางนกแขวก” ตกแต่งร้านน่ารักดีค่ะ แต่เสียดายที่ไม่กิน แค่ขอแวะไปถ่ายบรรยากาศในร้านเฉยๆ

อันนี้ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกะลา ขอบอกว่ารสชาติจี๊ดจ๊าดมาก ใครชอบทานเผ็ดแนะนำเจ้านี้เลย เอกลักษณ์ดูง่ายๆ ที่ภาชนะที่ใส่ เขาทำจากกะลามะพร้าว (อยากจิ๊กกลับบ้านจริงๆ เล้ย)

ของฝากก็มีน่ะจ๊ะ

 

เต็มอิ่มกันไปเลยกับ 3 ตลาดน้ำในจังหวัดสมุทรสงคราม ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าปีใหม่นี้จะไปเที่ยวไหนดี ลองให้สามตลาดนี้เป็นตัวเลือกได้นะค่ะ ขับรถจากกรุงเทพแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว (ถ้ารถไม่ติด) สำหรับปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวนะคะ เดินทางปลอดภัยทุกคนนะคะ ^^

 

ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น