ลองลิ้มชิมรสปลาสดๆ ที่ “Miyatake”
เมืองไทยนี่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวบรวมอาหารนานาชนิดจริงๆ แม้แต่อาหารญี่ปุ่นเราก็มีแทบทุกซอก ทุกซอย จะมีแบบหรูบ้าง ข้างทางบ้างประปราย เรียกได้ว่าไม่ว่าใครก็สามารถลิ้มลองรสชาติญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นได้ทั้งนั้น
แต่ถึงแม้ว่าเหล่าร้านอาหารญี่ปุ่นจะตั้งขึ้นอย่างกับดอกเห็ด แต่จะหาร้านที่คงคุณภาพ คงความสดของวัตถุดิบ ในแบบญี่ปุ่นไว้ได้นั้น คงมีไม่มากเท่าไหร่ ยิ่งคอปลาดิบด้วยแล้ว ถ้าเข้าร้านไหนร้านนั้นปลาไม่สด มีอันเป็นต้องหมดอารมณ์รับประทานกันไปทุกรายค่ะ วันนี้ส้มเลยขอเอาใจคนรักปลา(ดิบ) โดยเฉพาะ กับร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของปลาที่แสนจะสด…สดจนคิดว่าเพิ่งไปตกมาเมื่อสองวินาทีที่แล้ว (เวอร์จริงจริ๊ง!!!) กับร้านนี้เลยค่ะ “Miyatake”ชื่อร้าน “Miyatake” คนรักปลาดิบหลายๆ คนอาจจะคุ้นๆ หูนะค่ะ ก็ร้านนี้เค้าเลี่ยงลือชื่อเสียงด้านนี้จริงๆ ปลาดิบที่นี่ชิ้นใหญ่ๆ เชฟบรรจงแล่ให้แบบไม่ยั่งมือ แหม!! เขียนไปคิดภาพไป น้ำลายจะไหลเปียกเสื้อหมดแล้วค่ะ 555+
ร้าน Miyatake ที่ส้มรู้จักมีอยู่ 3 สาขาค่ะ ที่แรกอยู่ที่ K Village ที่ๆ สองอยู่ห้างมาบุญครอง ชั้น 4 ฝั่งโตคิว และอีกสาขาที่ส้มใช้บริการเป็นประจำคือที่เซ็นทรัลเวิร์ดค่ะ ร้านหาง่ายมั่กๆ แค่เราขึ้นไปที่ชั้น 5 ฝั่งอิเซตัน โซนร้านอาหาร เราจะเห็นเคาน์เตอร์ร้าน Miyatake ขนาดย่อมๆ มีเก้าอี้ประมาณ 6-7 ตัวได้ ลูกค้าก็ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันหน่อยนะค่ะ เพราะของเค้าดีจริง คนรอคิวก็เยอะเป็นธรรมดาจ้า
ถึงลูกค้าจะเยอะขนาดไหน แต่ส้มไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเห็น “เชฟเซียง” ผู้ทำหน้าที่เพชรฆาตปลา (ขนาดนั้นเลย ><“) ทำหน้าตาบูดบึ้งแต่อย่างใด ภาพที่ส้มเห็นทุกครั้ง เชฟเซียงจะตั้งหน้าตั้งตา (ออกแนวเอาจริงเอาจังซะด้วย) บรรจงปรุงเมนูอาหารญี่ปุ่นจานแล้ว จานเล่ามาเสิร์ฟลูกค้าได้ทันอกทันใจเสมอค่ะ
อาหารที่นี่จะเน้นพวกปลาดิบ จะเอาไปทำชูชิก็ได้ ข้าวหน้าปลาดิบก็ดี แถมมีปลาหลายชนิดให้เลือกได้ตามใจชอบ แฟนพันธุ์แท้ปลาดิบคงปลื้มปริ่มกันสุดๆ เลยล่ะค่ะ แต่อย่างส้มน่ะ มันแค่มือใหม่หัดกิน รู้จักชื่อปลาอยู่ไม่กี่อย่างหรอก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่ากินมันหมดทุกอย่างที่อยากกินเป็นพอ ไม่ต้องสนว่ามันมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าอะไรหรอก อิอิอิ
เมนูที่ร้านนี้ ไม่มีภาษาไทยนะค่ะ มีแต่ภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ลูกค้าก็ต้องสั่งเป็นภาษาญี่ปุ่นหรือไม่ก็อังกฤษเท่านั้น เหยยยยยย!! ล้อเล่น ไม่ต้องกลัวสั่งไม่ถูกค่ะ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีภาษาไทย แต่รูปประกอบนั้นมีให้พินิจแน่นอน เอ้า!! ได้เวลาจิ้มๆ เลือกๆ กันได้ตามความชอบและกำลังทรัพย์เลยจ้า
เมนูข้าวหน้าปลาดิบจ้า
ซูชิราคาคิดเป็นคำ (เป็นชุดก็มีนะจ๊ะ)
มีชื่อปลากำกับไว้ด้วย ถ้าอยากรู้รสชาติเป็นไง ต้องลอง!!
มีอีกๆ ค่ะ มีหลายชนิดจริงๆ (แต่พี่เชฟบอกว่าที่สาขา K Village มีหลายชนิดกว่านี้อีก)
เชฟเซียงบอกว่า ปลาเอนกาวาย่างอร่อยมาก
เมนูที่ส้มเลือกทุกครั้งคือข้าวหน้าปลาดิบ เอ่อ…อย่าถามว่ามันเรียกว่าอะไร เพราะอย่างที่บอก “มันเขียนภาษาญี่ปุ่น” T_T รู้แต่ว่าจานที่ส้มเลือกเนี๊ยะ มันมีปลาหลายชนิดดี เรียกได้ว่าคุ้มกับราคา 450 บาท ตอนที่เชฟทำเสร็จแล้วยกเสิร์ฟ เราอาจจะคิดในใจว่า โห!! 450 บาท จานแค่เนี๊ยะ แต่เมื่อได้คีบชิ้นปลาขึ้นมาดู จะพบความจริงที่ว่า “เออ… คุ้มว่ะ” เพราะปลาแต่ละชิ้น ทั้งหนา ทั้งใหญ่ และสดโคตร
นี่แหละโฉมหน้าของข้าวหน้าปลาดิบที่ส้มกินทุกครั้งค่ะ (คุ้มมาก)
ทั้งไข่ปลาแซลมอล ปลาแซลมอน ปลาโอโทโร่ ปลาหมึก
และน่าจะปลามากุโร่ด้วยค่ะ ชิ้นใหญ่ๆ ทั้งนั้น
แต่ถ้าไม่อยากกินข้าวหน้าปลาดิบ อยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นซูชิ ก็สั่งได้เหมือนกันนะค่ะ ปลามีเยอะ มีหลายชุด หลายราคา ก็ลองมองๆ กันดูนะค่ะว่าอยากกินอะไร จิ้มๆ รูปในเมนูให้พี่เชฟเค้าดูก็ได้ค่ะ ง๊ายง่าย
เมนูนี้ก็สั่งทุกครั้งเหมือนกันค่ะ ปลาหวาน สด โอ้ย อยากกินจัง
นอกจากที่ส้มบอกว่าพี่เชฟเซียงทำหน้าที่เชฟอย่างแข็งขันแล้ว พี่เชฟแกยังใจดีอีกด้วยค่ะ เพราะเวลาส้มไปมักจะใกล้ปิดครัวแล้ว พี่เชฟแกก็ใจดีเอาเมนูนั่นบ้าง นี่บ้าง เล็กๆ น้อยๆ ให้ได้ลองชิม แหม!! นี่แหละอีกหนึ่งสิ่งที่ส้ม Love Love ที่นี่
ที่เห็นอยู่ด้านหลัง คือโฉมหน้าของเชฟเซียงค่ะ
อันนี้คือหนึ่งในเมนูที่เชฟผู้ใจดีมอบให้เราชิมฟรีๆ จ้า
บอกได้เลยค่ะว่า ส้มไปกินร้านนี้ทีไรไม่เคยมีคำว่าผิดหวังค่ะ อย่างที่พูดมาตั้งแต่ต้นว่าของเค้าดีจริงๆ ถ้าใครอยากรู้ว่าเจ้าปลาสดๆ เนี๊ยะ มันอร่อยเหาะขนาดไหน ส้มขอแนะนำร้านนี้เลยนะค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่า “สวรรค์แห่งการกินอยู่ใกล้แค่เอื้อม”
อ่อ…ขอบอกอีกนิดค่ะ ร้านนี้เปิดตามเวลาห้างนะค่ะ แต่ว่าจะปิดรับลูกค้าตอน 2 ทุ่มครึ่ง เพราะต้องเก็บครัว ล้างข้าวล้างของหน่อย หากไปเกินเวลานั้นแล้วอดกินล่ะก็ อย่าหาว่าส้มไม่เตือนนะจ๊ะ ^__^
ปล.ภาพจากรีวิวนี้ อาจไม่สวยงามเท่าที่ควร เนื่องจากถ่ายจากมือถือ ต้องขออภัยด้วยคร้าบบบ
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand